1. บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง
สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์,
ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง;
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า,
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน. (กราบ)
ส๎วากขาโต๑
ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว;
ธัมมัง นะมัสสามิ.
ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม.
(กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฎิบัติดีแล้ว;
สังฆัง นะมามิ.
ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์.
(กราบ)
๑ พยัญชนะที่มีเครื่องหมายยามักการ
( ๎) ให้อ่านออกเสียง อะ กึ่งมาตรา (อ่านออกเสียง อะ ครึ่งเสียง
ควบกับพยัญชนะหลัง และว่าเร็วขึ้น) ทุกแห่ง เช่น ส๎วากขาโต อ่านว่า สะหวาก-ขา-โต
2. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
(สวด 3 จบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,
ขอนอบน้อม
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระองค์นั้น;
อะระหะโต,
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส;
สัมมาสัมพุทธัสสะ.
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง.
3. บทไตรสรณคมน์
พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้า
พระธรรม และพระสงฆ์
เป็นที่พึ่งตราบถึงพระนิพพาน;
ทุติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ทุติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ทุติยัมปิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
แม้ครั้งที่
2
ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ตราบถึงพระนิพพาน;
ตะติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ตะติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
ตะติยัมปิ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,
แม้ครั้งที่
3 ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
ตราบถึงพระนิพพาน.
4. บทสรรเสริญพระพุทธคุณ
อิติปิ โส ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น;
อะระหัง,
เป็นผู้ไกลจากกิเลส;
สัมมาสัมพุทโธ,
เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง;
วิชชาจะระณะสัมปันโน,
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ;
สุคะโต,
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี;
โลกะวิทู,
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง;
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ,
เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า;
สัตถา เทวะมะนุสสานัง,
เป็นครูผู้สอนของเทวดา
และมนุษย์ทั้งหลาย;
พุทโธ,
เป็นผู้รู้
ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม;
ภะคะวาติ,
เป็นผู้มีความจำเริญ
จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์.
5. บทสรรเสริญพระธรรมคุณ
ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว;
สันทิฏฐิโก,
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง;
อะกาลิโก,
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้
และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เอหิปัสสิโก,
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด;
โอปะนะยิโก,
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ๒.
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน.
๒ วิญญูหีติ
อ่านว่า วิน-ยู-ฮี-ติ แปลว่า ผู้รู้
6. บทสรรเสริญพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด,
ปฏิบัติดีแล้ว;
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด,
ปฏิบัติตรงแล้ว;
ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว;
สามีจิะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด,
ปฏิบัติสมควรแล้ว;
ยะทิทัง,
ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ
:-
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,
คู่แห่งบุรุษ
๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษ ได้ ๘ บุรุษ;
เอสะ
ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
นั้นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า;
อาหุเนยโย*,
เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา;
ปาหุเนยโย*,
เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ;
ทักขิเณยโย*,
เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน;
อัญชลีกะระณีโย,
เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี;
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
เป็นเนื้อบุญของโลก
ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
* อ่านว่า
ไน-โย